โรคซาร์ส ไข้หวัดมรณะที่เราเรียกว่า SARS คือการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจที่รุนแรง นี่คือโรคที่เกิดขึ้นใหม่ ในปี พ.ศ. 2545 พบการติดเชื้อร้ายแรงในประเทศจีน และแพร่กระจายไปยังหลายประเทศทั่วโลก การระเบิดของภาพยนตร์ในเวลานั้นอาจหยุดลงในปีหน้า องค์การอนามัยโลกประกาศการระบาดของโรคซาร์สในช่วงปลายปี 2550 แต่ตรวจพบการติดเชื้อซ้ำในห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา แต่คุณสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 เกิดโรคระบาดในชุมชนชาวจีน
รัฐบาลจีนออกมาตรการห้ามขายและบริโภคเนื้อชะมดชะมด และกวาดล้างชะมดกว่า 20,000 ตัว ซึ่งยังไม่ฟื้นจากโรคซาร์ส เนื่องจากโรคระบาดทางเดินหายใจเป็นโรคที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว การควบคุมการระบาดของโรคซาร์สเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลดการแพร่เชื้อ โดยมีแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด ดังนี้ สื่อสารการระบาดของโรค และให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ ที่มีการระบาดของโรค หากพบว่ามีผู้ติดเชื้อจะต้องมีการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสผู้ป่วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ต้องแยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกจากฝูงชน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรค โรคซาร์ส เกิดจากการติดเชื้อในมนุษย์ด้วยไวรัส 2 ชนิด ได้แก่ โคโรนาไวรัส และพารามูโคไวรัส ไวรัสเหล่านี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจหลังจากเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ อาการคล้ายหวัดซึ่งการแพร่กระจายของเชื้อ และการแพร่กระจายของโรคเกิดจากการสัมผัสเชื้อโรคจากการไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจที่มีเชื้อโรค
มันแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านการหายใจ หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากการไอและจาม เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกายแล้วจะมีระยะฟักตัวภายใน 6 วัน และจะมีอาการไข้สูง ในระยะแรกของโรค ผู้คนอาจมีอุจจาระหลวม หลังจากนั้นจะมีอาการไอแห้งๆ ไม่มีเสมหะ หายใจหอบ หายใจลำบาก หากตรวจปริมาณออกซิเจนในเลือดจะพบว่ามีค่าลดลง ภาวะขาดออกซิเจน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรง คือ หายใจล้มเหลว อาจทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด
โรคซาร์สเป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ และไม่มียาให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานโรคได้เองต้องใช้เวลากว่าร่างกายจะปรับตัว แต่สิ่งสำคัญคือต้องป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคซึ่งจะเพิ่มความรุนแรงของโรคจนยากแก่การรักษา การแทรกแซงที่ต้องระวังมีดังต่อไปนี้ ภาวะขาดออกซิเจน ระบบหายใจ มีหน้าที่เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด เมื่อมีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ปอดจะมีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลต่อการทำงานของร่างกายทั้งหมด การหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ทำให้หยุดหายใจกะทันหันเมื่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบลดลง
สำหรับการรักษาโรคซาร์สในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ การรักษาโรคใช้วิธีอนุรักษ์ตามอาการของโรค ป้องกันโรคแทรกซ้อน เช่น ให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้ไอ ให้น้ำเกลือ ใช้เครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น และให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน และฟื้นตัว ควรปฏิบัติดังนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงต้องแยกไว้ในพื้นที่ ที่ไม่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ โดยแยกกลุ่มเสี่ยงออกจากพื้นที่ เช่น เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว และต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
เช่น ใช้ผ้าปิดปากและจมูก ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และแยกล้างและแบ่งมื้ออาหาร ห้ามคนป่วยออกจากบ้าน ผมต้องหยุดงาน เรียน และทำธุระต่างๆ รวมทั้งต้องติดตามอาการ และการปฏิบัติตัวของเจ้าหน้าที่ทุกวัน เช่น โทรหา SARS ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ และไม่มียารักษาโรคแม้ว่าร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคได้เอง แต่ถ้าการติดเชื้อไม่รุนแรง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรค โดยมีแนวทางป้องกัน ดังนี้ ในพื้นที่ที่เป็นโรคปอดอักเสบผิดปกติต้องควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แพทย์และพยาบาล ที่ดูแลผู้ป่วยโรคซาร์สต้องปฏิบัติตามข้อควรระวังอย่างเคร่งครัด เช่น การสวมถุงมือและเสื้อคลุม สวมแว่นตาป้องกัน หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ เป็นต้น หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศ หรือภูมิภาคที่มีโรคซาร์สระบาด ดูแลสุขภาพร่างกาย โดยทั่วไปของคุณ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
นานาสาระ: ก๊าซมีเทน ก๊าซมีเทนในแถบอาร์กติกตื่นขึ้นสู่ยุคการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ครั้งที่6